สำหรับเด็กๆ ในโครงการครอบครัวอุปการะ ซึ่งวิถีชีวิตประจำวันนอกจากช่วยงานบ้านให้พ่อแม่อุปการะแล้ว เด็กๆก็ยังต้องปรับตัวเข้าสู่ยุค NEW NORMAL จากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 โดยเฉพาะการเรียน น้อง ๆ ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบโดยเข้าสู่โหมดการเรียนออนไลน์ บ้างก็เรียนผ่านจอคอมพิวเตอร์ บ้างก็เรียนผ่านสื่อการสอนระบบทางไกลจากทีวี บ้างก็เรียนกับมือถือ ซึ่งมีความแตกต่างไปตามบริบทของแต่ล่ะครอบครัว
นาย ก. (นามสมมุติ) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนธารทองพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การเรียนออนไลน์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ทำให้เริ่มปรับตัวได้ แต่เวลาเรียนต้องตั้งใจและมีสมาธิมากเพราะมักจะตามไม่ทัน และมีการบ้านเยอะกว่าเรียนปกติ จึงต้องมีวินัยมากขึ้น เพื่อส่งการบ้านให้ทันตามกำหนด
นางสาว ข. (นามสมมุติ) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า สามารถปรับตัวเรียนออนไลน์ได้ แต่เนื่องจากที่อยู่อาศัยอยู่กันหลายคน มีเสียงดัง ทำให้ไม่กล้าเปิดไมล์ตอบคำถามครูในขณะเรียน ซึ่งหลังจากนี้อาจจะต้องหาที่สงบในการเรียน
นาย ค. (นามสมมุติ) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า พึ่งสอบได้ที่โรงเรียนนี้ แต่ต้องเรียนออนไลน์ ทำให้ไม่ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ จึงมีเพื่อนสนิทแค่ 1 คน แต่ก็รู้จักและพูดคุยกับเพื่อนในห้องทุกคนผ่านทางออนไลน์ เรื่องเรียนก็พอเรียนได้ ตามงานทัน มีแค่ วิชาประวัติศาสตร์ วิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ และหน้าที่พลเมือง ที่ไม่ค่อยเข้าใจ
นางสาว ง. (นามสมมุติ) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องปรับตัวมากในการเรียนออนไลน์คือการบ้าน มีจำนวนมากกว่าเดิม ทำให้ต้องมีความรับผิดชอบในการทำและส่งให้ครบตามที่ครูสั่ง ซึ่งมีวิชาแนะแนวและวิชาคอมพิวเตอร์ที่ทำไม่ค่อยได้ อีกทั้งการเรียนออนไลน์ทำให้ไม่ค่อยเข้าใจครูสอน เพราะบางครั้งตามครูให้ทัน จึงต้องพยายามมีสมาธิมากกว่าเดิม
สำหรับบรรยากาศการเรียนของเด็กในโครงการครอบครัวอุปการะในชุมชนวัฒนธรรม ในจังหวัดบุรีรัมย์ ถึงแม้จะอยู่ในสภาวะไม่ปกติในสถานการณ์เชื้อไวรัสที่กำลังระบาดหนัก แต่เด็กๆ ก็ไม่ทิ้งการเรียนและยังคงตั้งใจเรียนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะได้ไปให้ถึงสิ่งที่พวกเขาวาดฝันไว้ในอนาคตวันข้างหน้า
ภาพ :คุณ วราพร คิดดี
เรื่อง: ธนกฤต บรรเทิงสุข