1. หลักการและเหตุผล
เด็กและเยาวชนเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าและมีความสำคัญเป็นอย่างมากในอนาคต ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า การศึกษาจึงถือเป็นรากฐานที่สำคัญขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่ช่วยพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาให้มีความสมบูรณ์ถึงแม้ปัจจุบันจะมีนโยบายการศึกษาภาคบังคับแต่ยังมีเด็กส่วนหนึ่งที่ไม่ได้เรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับ หรือผู้ที่เรียนต่อในระดับชั้นมัธยมปลายจำเป็นต้องออกกลางคันระหว่างเรียน ด้วยสาเหตุต่างๆ ที่มีผลต่อเด็ก เช่น ปัญหาความยากจน ปัญหาครอบครัว ปัญหาสภาพแวดล้อม
ซึ่งส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้เด็กขาดทักษะการเรียนรู้ขาดทักษะชีวิต ขาดความมั่นใจในตนเอง และขาดโอกาสในการประกอบอาชีพ จนกลายเป็นปัญหาสังคม (จากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ปี2560 จำนวนนักเรียนที่เรยีนในระดับชั้นประถมศึกษา-มัธยมปลาย จำนวน 5,866,675 คน ต้องออกกลางคันระหว่างเรียน จำนวน 4,038 คน หรือ 0.07%) ซึ่งเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษาเหล่านี้ ควรได้รับโอกาสฝึกวิชาชีพ พัฒนาศักยภาพและฝึกอบรมคุณธรรม
เพื่อประกอบสัมมาอาชีวะ สร้างตนเอง ช่วยเหลือครอบครัวสังคม และประเทศชาติในขณะที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแต่กลุ่มคนที่จะท างานด้านการดูแลผู้สูงอายุยังมีจำนวน ไม่เพียงพอ (ข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปี2560 จำนวนประชากรไทย 77 จังหวัด ทั้งหมด 66,188,503 คน เป็นประชากรผู้สูงอายุ60 ปีข้นึไป จำนวน 10,225,322 คน หรือ 15.45%) งานด้านการบริบาลจึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพทางเลือก ที่เปิด โอกาสทั้งทางด้านการศึกษาและส่งเสริมอาชีพงานด้านการบริบาลให้เด็กและเยาวชน หรือผู้ที่ขาดโอกาส แต่มีความสนใจ เพื่อสร้างรายได้ให้ตนเอง และสามารถเลี้ ยงดูครอบครัวได้มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท จึงได้ด าเนินโครงการพัฒนาอาชีพด้านการบริบาล ขึ้ น ตั้งแต่ปี2560 เป็นต้นมา
2. เจตนารมณ์/วัตถุประสงค์
2.1 เยาวชนที่ด้อยโอกาส ได้รับโอกาสในการการศึกษาและเข้าสู่การประกอบอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืน
2.2 พัฒนาศัยภาพเยาวชนให้เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุ ที่มีความรู้ มีทักษะและมีความเชี่ยวชาญในด้านการดูแลผู้สูงอายุโดยตรง สามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างถูกต้อง และมีทัศนะคติที่ดีต่ออาชีพด้านการบริบาล
2.3ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่เหมาะสม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
3. เป้าหมาย
3.1 เยาวชนมีทัศนคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพที่สุจริต และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
3.2 เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจในงานด้านการบริบาล และพัฒนาศักยภาพตนเองเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพด้านการบริบาล
3.3 ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมสุขภาพให้สอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบัน และเป็ นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพไม่เป็นภาระต่อสังคม และครอบครัว
4. หน่วยงานร่วมเจตนารมณ์
4.1 โรงเรียนเป็นเลิศการบริบาล
4.2 วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์
4.3 โรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล
4.4 หน่วยงานภาคีเครือข่ายของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท
5. ผลการดำเนินงานรายปี
มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ได้ประสานความร่วมมือกับโรงเรียนเป็นเลิศการบริบาล วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ โรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริบาล ตามหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ 420 ชั่วโมง ตลอดจนสนับสนุนคำแนะนำเชิงวิชาการ โดยมูลนิธิฯ ได้ร่วมคัดเลือกเยาวชน พร้อมสนับสนุนงบประมาณ และติดตามดูแลผู้เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มดำเนินงาน ในปีบริหาร 2562 ต่องเนิ่องมายังปี บริหาร 2563 จำนวน 5 รุ่น มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ รวม 42 คน ดังนี้
6. ผลสำเร็จในภาพรวม
มูลนิธิฯ ได้รับความร่วมจากหน่วยงานร่วมเจตนารมณ์ดำเนินโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ รวม 42 คน โดยผู้ที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรได้นำความรู้และประสบการณ์ไปทำงานดูแลสูงอายุในสถานประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชน มีรายได้มั่นคง สามารถเลี้ยงตัวเองและช่วยเหลือครอบครัวได้รวมทั้งเป็นอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุในชุมชน สรุปได้ดังนี้